GUNKUL ฟอร์มเจ๋ง! โชว์กำไรปี 67 โตแรง 1.66 พันลบ.พุ่งเฉียด 13% ปักธงลุยโครงการพลังงานทดแทน-งาน EPC มั่นใจธุรกิจสดใสตามแผน PDP-ปั๊มผลงานปีนี้โตเกิน 15%

   เมื่อ : 28 ก.พ. 2568

บมจ.กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง (GUNKUL) ประกาศผลการดำเนินงานงวดปี 2567 มีกำไรสุทธิรวม 1661.08 ล้านบาท จากปีก่อนมีกำไรสุทธิ 1474.89 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 12.62%    ส่วนรายได้รวมเท่ากับ 9731.24  ล้านบาท จากปีก่อนอยู่ที่ 7697.57 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 26.42%รับอานิสงส์จากธุรกิจงานขายอุปกรณ์ระบบไฟฟ้า และรับรู้รายได้จากธุรกิจรับเหมาก่อสร้างและวางระบบทางด้านวิศวกรรม (EPC) ที่เพิ่มขึ้น รวมถึงโครงการพลังงานทดแทนที่สดใส ฟากซีอีโอ “โศภชา ดำรงปิยวุฒิ์” ลุยพัฒนาโครงการพลังงานทดแทนอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างการเติบโตอย่างมีศักยภาพ  มั่นใจอนาคตธุรกิจสดใสตามแผน PDP ที่ยังมีการประมูลโครงการเพิ่ม หนุนผลการดำเนินงานเติบโตตามเป้าไม่ต่ำกว่า 15%

 

นางสาวโศภชา ดำรงปิยวุฒิ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) (GUNKUL) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานงวดปี 2567 (สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2567)    ของบริษัทฯ และบริษัทย่อยมีกำไรการดำเนินงานตามปกติของกิจการจำนวน 1661.08 ล้านบาท  จากงวดเดียวกันของปีก่อนเท่ากับ 1474.89 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 186.19 ล้านบาท หรือคิดเป็น 12.62%     ส่วนรายได้รวมเท่ากับ 9731.24 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 7697.57 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2033.67 ล้านบาท คิดเป็น  26.42%

            

สาเหตุอันเนื่องจากผลประกอบการไตรมาส4/2567 เทียบกับไตรมาส4/2566 เติบโตค่อนข้างมากเกือบ 4 เท่า  หรือเติบโตสูงถึง 395%  จากการดำเนินธุรกิจหลักที่ดีขึ้นทั้งในส่วนของธุรกิจการขายอุปกรณ์ระบบไฟฟ้า เช่น SF6 Gas Switch Surge Arrester และอุปกรณ์อื่น ๆ  อีกทั้งมีรายได้จากกลุ่มงานก่อสร้างและการให้บริการที่เพิ่มขึ้นอย่างมีสาระสำคัญ 

 

ทั้งนี้ในปีที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้เตรียมความพร้อมสำหรับรับโครงการใหม่ๆ โดยเฉพาะพลังงานทดแทนทั้งโครงการโซลาร์ฟาร์มและโครงการพลังงานลม  ซึ่งช่วงปลายปี 2567 บริษัทฯ ได้ผ่านคุณสมบัติและได้รับการคัดเลือกเพิ่มขึ้นอีกกว่า 319 เมกะวัตต์  ทั้งโครงการพลังงานลมและโครงการโซลาร์ฟาร์ม  ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการพิจารณาเพิ่มเติม  โดยบริษัทฯ คาดว่าจะได้เมกะวัตต์ส่วนนี้เข้ามาเพิ่มเติมในพอร์ตถือเป็นโอกาสที่ดีของบริษัทฯ ที่จะสามารถขยายธุรกิจไปในส่วนของพลังงานทดแทนทั้งในประเทศและต่างประเทศ

 

ด้านงานก่อสร้างบริษัทฯ ยังมีโอกาสที่จะได้รับงานเพิ่มเติมทั้งในส่วนของงานสายส่งและสถานีในส่วนของโรงไฟฟ้าที่จะเกิดขึ้นใหม่ตามแผน PDP ใหม่ อีกทั้งภาคเอกชนมีการสร้างโรงไฟฟ้าโซลาร์เซลล์เพื่อใช้ในกิจการของตัวเอง ดังนั้นจึงเป็นโอกาสที่จะมีรายได้ในส่วนของพลังงานทดแทนทั้งภาครัฐและเอกชนเข้ามา  ขณะที่ Trading และ Manufacturing บริษัทได้มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ใหม่เพื่อรองรับโรงไฟฟ้าที่จะเกิดขึ้นในระบบ 115  Kv  รวมถึงเพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ใหม่ที่บริษัทยังไม่เคยทำเพื่อรองรับการเติบโตในระบบส่งและระบบจำหน่ายต่อไปในอนาคต

 

สำหรับทิศทางธุรกิจของกลุ่มบริษัทฯ ในปี 2568 เชื่อว่า ยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่องจากปี 2567 เนื่องจากภาพรวมตลาดยังมีศักยภาพทั้งงานจากโครงการพลังงานทดแทนรอบใหม่ และงานของภาครัฐที่มีงบลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานเพิ่มเติมตามความต้องการใช้ไฟฟ้า   ซึ่งบริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้ปีนี้จะเติบโตไม่ต่ำกว่า  15 %   หลักๆ มาจากการรับรู้รายได้ธุรกิจพลังงานทดแทน ธุรกิจรับเหมาก่อสร้างและวางระบบทางด้านวิศวกรรม (EPC) และเทรดดิ้งอุปกรณ์ระบบไฟฟ้า 

 

ขณะที่เป้าหมายการเติบโตในช่วง 3-5 ปีข้างหน้าตั้งเป้าโตไม่ต่ำกว่า 15% จากการพัฒนาโครงการพลังงานทั้งโครงการลม และโครงการพลังงานแสงอาทิตย์กว่า 832 เมกะวัตต์ รวมถึงโครงการพลังงานทดแทนทั้งในและต่างประเทศที่จะเพิ่มเติมในอนาคต อีกทั้งบริษัทฯ ยังมีส่วนของในงานมือ (Backlog) งานขายอุปกรณ์ระบบไฟฟ้า และงานบริการก่อสร้างที่มีอยู่ประมาณ 4000 ล้านบาท  โดยคาดว่าในปี 2568 จะมีโครงการรับเหมาก่อสร้างใหม่ๆ ทยอยเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะส่งผลทำให้งานในมือเพิ่มมากขึ้น

 

อย่างไรก็ตามบริษัทฯ คาดว่าจะมีการใช้เงินลงทุนในส่วนทุนไม่ต่ำกว่า 30000 ล้านบาทในอีก 5 ปี โดยปัจจุบันอัตราส่วนหนี้สินต่อทุนยังอยู่ในระดับต่ำ พร้อมรองรับการเติบโตในทุกด้าน เพื่อสร้างรายได้และผลกำไรให้บริษัทฯ อย่างต่อเนื่อง