วช. ร่วมกับ จ.ขอนแก่น และ จ.ชัยภูมิ ชี้แจงกลไกการบริหารจัดการน้ำภายใต้แผนงานวิจัยมุ่งเป้า และรับฟังความเห็นเครือข่ายบริหารจัดการน้ำ 2 จังหวัด มุ่งยกระดับสู่เป้าหมาย ”น้ำมั่นคง ไม่ท่วม ไม่แล้ง”
วันที่ 19 พฤศจิกายน 2568 สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ(วช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม นำโดย ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ จัดเวที “การรับฟังความคิดเห็นและหารือแนวทางขับเคลื่อนกิจกรรมมุ่งเป้าอนาคตประเทศไทยเพื่อน้ำมั่นคง” ณ โรงแรมพูลแมน ขอนแก่น ราชา ออคิด จังหวัดขอนแก่น
ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ กล่าวว่า การประชุมรับฟังความคิดเห็นครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อร่วมกันระดมความคิดเห็นจากภาคีเครือข่าย ทั้งในระดับจังหวัด หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน สถาบันการศึกษา และชุมชน เพื่อให้เราสามารถกำหนดแนวทางการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำที่เหมาะสมกับบริบทของพื้นที่ขอนแก่นและชัยภูมิ ภายใต้แนวคิด “น้ำมั่นคง ไม่ท่วม ไม่แล้ง” ซึ่งเป็นหนึ่งในเป้าหมายสำคัญของแผนงานยุทธศาสตร์ ววน. โดย วช. มุ่งมั่นที่จะทำหน้าที่เป็นกลไกกลางในการบูรณาการองค์ความรู้จากนักวิจัยและภาคส่วนต่าง ๆ เพื่อสร้างนวัตกรรมและแนวทางการบริหารจัดการน้ำที่ยั่งยืน ทั้งในเชิงนโยบายและเชิงปฏิบัติ โดยเราจะนำข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากเวทีวันนี้ไปต่อยอดสู่การดำเนินงานร่วมกับพื้นที่เป้าหมายทั้ง 10 จังหวัดทั่วประเทศ ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการแก้ปัญหาด้านน้ำของประเทศ อันเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญในการ “มุ่งเป้าอนาคตประเทศไทยเพื่อน้ำมั่นคง ไม่ท่วม ไม่แล้ง ด้วยวิจัยและนวัตกรรม”ตลอดจนสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกต่อคุณภาพชีวิตของประชาชนและชุมชนในจังหวัดขอนแก่นและจังหวัดชัยภูมิ
โดยมี ศาสตราจารย์ ดร.สนิท อักษรแก้ว กรรมการอำนวยการแผนงานฯ ดร.วิจารย์ สิมาฉายา ประธานคณะกรรมการส่งเสริมแผนงานฯ และ รองศาสตราจารย์ ดร.สุจริต คูณธนกุลวงศ์ ผู้อำนวยการแผนงานฯ (Program Director) ร่วมแลกเปลี่ยนแนวคิดกับผู้แทนจังหวัดและหน่วยงานในพื้นที่
ทั้งนี้ การเปิดเวทีในครั้งนี้เป็นการบูรณาการองค์ความรู้ด้านวิจัยและนวัตกรรมกับการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ เพื่อสร้างความมั่นคงด้านน้ำในระดับจังหวัด โดย วช. จะนำข้อเสนอจากการรับฟังความคิดเห็นไปใช้ประกอบการกำหนดแผนการดำเนินงานร่วมกับภาคีในพื้นที่ทั้ง 10 จังหวัดเป้าหมาย ซึ่งภายในงานมีการจัดนิทรรศการแสดงผลงานการขับเคลื่อน “น้ำมั่นคง” กว่า 14 ผลงาน ที่สะท้อนศักยภาพของนักวิจัยและภาคีในพื้นที่ต่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน