ธ.ก.ส. คว้ารางวัลสุดยอดซีอีโอรัฐวิสาหกิจแห่งปี “CEO ECONMASS AWARDS 2025”

วันนี้ (8 ตุลาคม 2568) นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานมอบรางวัลสุดยอดผู้นำองค์กร (สุดยอดซีอีโอ) หรือ CEO ECONMASS AWARDS 2025 จัดโดยสมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจ โดยมี นายฉัตรชัย ศิริไล ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เป็นผู้รับมอบรางวัลสุดยอดซีอีโอรัฐวิสาหกิจ สาขา Social สำหรับรางวัลดังกล่าวจัดขึ้นเพื่อสร้างต้นแบบ “ซีอีโอ” ที่มีศักยภาพในการนำพาองค์กรก้าวสู่ความสำเร็จและสร้างแรงบันดาลใจให้กับซีอีโอรุ่นต่อไป โดยขับเคลื่อนการเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับเศรษฐกิจของประเทศให้ความสำคัญกับการส่งเสริมและพัฒนานวัตกรรมการยึดมั่นในจริยธรรมและมีธรรมาภิบาล ตลอดจนคำนึงถึงผลต่อชุมชน สังคมและสิ่งแวดล้อม รวมถึงผลประโยชน์ต่อเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งกระบวนการคัดเลือกเป็นไปตามหลักวิชาการที่เป็นมาตรฐานสากลจากคณะกรรมการคัดเลือกที่มีประสบการณ์มีความเชี่ยวชาญ ได้แก่ สมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจ คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) โดยพิธีรับรางวัลดังกล่าวจัดขึ้น ณ โรงละครอักษรา คิง เพาเวอร์ กรุงเทพฯ
สำหรับรางวัล สุดยอดซีอีโอรัฐวิสาหกิจสาขา Social นับเป็นการยกย่องผู้บริหารสูงสุดขององค์กรรัฐวิสาหกิจที่มีผลงานเป็นที่ประจักษ์ในการขับเคลื่อนงานดังกล่าวโดย ธ.ก.ส. กำหนดยุทธศาสตร์ในการดูแลสังคมและสร้าง Social Impact อย่างเป็นรูปธรรม ภายใต้แนวทางการดำเนินธุรกิจที่มุ่งเน้นการพัฒนาอย่างยั่งยืนตามหลัก ESG (Environmental Social and Governance) และโมเดลธุรกิจ BCG เพื่อสร้างผลลัพธ์การดำเนินงานที่ดี รองรับการเปลี่ยนแปลงในอนาคตอันนำไปสู่การสร้างความยั่งยืนให้องค์กร การสร้างคนรุ่นใหม่ให้มาสนใจภาคเกษตรกรรมและมองเห็นโอกาสในการสร้างรายได้เทียบเท่ากับการทำงานในเมืองผ่านโครงการเกษตรธนากร โดยเติมความรู้ทักษะด้านการเกษตรสมัยใหม่ ความรู้ทางการเงินให้กับเยาวชนในโรงเรียน เพื่อปูทางไปสู่การเป็นผู้ประกอบการทางการเกษตรในอนาคต การดึงคนที่มีความรู้ประสบการณ์ทั้งด้านเทคโนโลยีและการตลาดเข้ามาพัฒนาภาคการเกษตร ผ่านโครงการสินเชื่อเกษตรวิวัฒน์ โดยเปิดโอกาสให้พนักงานทั้งภาครัฐและเอกชน ข้าราชการที่เตรียมเกษียณอายุได้มีโอกาสสร้างรายได้จากการเป็นผู้ประกอบการทางการเกษตร ซึ่งถือเป็นการพัฒนาและเติมคนเข้าสู่ภาคการเกษตร ทดแทนเกษตรกรที่อายุมากขึ้น ทำให้ภาคเกษตรกรรมมีความเข้มแข็ง
นอกจากนี้ ธ.ก.ส. เตรียมเปิดช่องทางการตลาด เพื่อให้ลูกค้าสามารถขายสินค้าไปยังผู้บริโภคโดยตรงผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัลใหม่ “BAAC Matching” โดยรวบรวมและเชื่อมโยงสินค้าเกษตรติดแกลมจากเกษตรกรทั่วประเทศออกสู่ตลาด คาดว่าจะเริ่มเปิดใช้งานอย่างเป็นทางการภายในเดือนพฤศจิกายนนี้ รวมถึงการดำเนินโครงการเปลี่ยนอากาศให้เป็นเงิน “BAAC Carbon Credit” ซึ่งถือเป็น Social Innovation ที่ช่วยส่งเสริมให้คนในชนบทมี Passive Income จากการปลูกต้นไม้ โดย ธ.ก.ส. สนับสนุนการยกระดับชุมชนธนาคารต้นไม้ไปสู่การซื้อ – ขายคาร์บอนเครดิตในประเทศตามโครงการลดก๊าซเรือนกระจก (Thailand Voluntary Emission Reduction Program: T-VER) เพื่อตอบโจทย์ภาคธุรกิจในการบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์และสนับสนุนนโยบายของประเทศในการแก้ไขปัญหาด้านภูมิอากาศ เพื่อมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon neutrality) ภายในปี ค.ศ. 2050 โดยการดำเนินงานทั้งหมดเน้นหลักธรรมาภิบาลในการนำองค์กร การมุ่งมั่นพัฒนาและยกระดับภาคการเกษตรให้มีความเข้มแข็ง เสริมสร้างคุณภาพชีวิตของเกษตรกรไทยให้เติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืนต่อไป