บริษัท ยุงค์ไฮน์ริช ลิฟท์ ทรัค จำกัด  เปิดตัว “ศูนย์สร้างประสบการณ์ NXT Warehouse” ตอกย้ำบทบาท

   เมื่อ : 02 ก.ย. 2567

ในฐานะผู้ให้บริการโซลูชันอุปกรณ์จัดการวัสดุคลังสินค้าที่ยั่งยืนและทันสมัยในประเทศไทย

ยุงค์ไฮน์ริช ได้รับเกียรติจาก น.ส. จันทรัศม์ ก. บัวเกษร หัวหน้าฝ่ายสมาชิกกิจกรรม และการสื่อสาร หอการค้าเยอรมัน – ไทย และ น.ส. สิรินทร อินทร์สวาท ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาเครือข่ายเชิงกลยุทธ์และประเมินผลเนคเทค สวทช. มาเป็นแขกผู้มีเกียรติร่วมเปิดพิธี พร้อมผู้บริหารระดับสูงจากยุงค์ไฮน์ริช  มร.สเตฟาน เบรม – รองประธานภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก มร.มโนจิต อชายา – กรรมการผู้จัดการ ยุงค์ไฮน์ริช ประเทศอินเดีย และประเทศไทย และ มร.บาร์โธโลมิ เฮ็นดรี อาดรีอนัส สแปรงเกอร์ – ผู้จัดการทั่วไป ยุงค์ไฮน์ริช ประเทศไทย 
 

พิธีเปิดตัวอย่างเป็นทางการในครั้งนี้ประกอบด้วยเหตุการณ์สำคัญต่างๆมากมาย อาทิ การกล่าวแสดงจุดยืนในการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย ที่มีภารกิจและพันธกิจที่เน้นย้ำในเรื่องของนวัตกรรมที่สร้างประสิทธิภาพให้กับคู่ค้า และสร้างความยั่งยืนสู่สังคมจากผู้บริหารระดับสูงยุงค์ไฮน์ริช พร้อมทั้งจัดแสดงเทคโนโลยีผลิตภัณฑ์ต่างๆ อาทิ รถโฟล์คลิฟท์ไฟฟ้า แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน และไฮไลท์ เทคโนโลยีรถยกอัตโนมัติไร้คนขับ รุ่น EKS 215a ภายในศูนย์สร้างประสบการณ์ NXT Warehouse แห่งใหม่

ศูนย์สร้างประสบการณ์ NXT Warehouse เปรียบเสมือนพื้นที่ในการถ่ายทอดความตั้งใจของยุงค์ไฮน์ริช ที่จะนำเสนอเทคโนโลยีใหม่ๆ ของอุปกรณ์จัดการวัสดุคลังสินค้า และแบ่งปันประสบการณ์จากบุคลากรของเราให้กับผู้ที่สนใจ ตั้งแต่รถโฟล์คลิฟท์ไฟฟ้าตลอดจนชั้นวางสินค้าและระบบซอฟต์แวร์อัจฉริยะ โดยยุงค์ไฮน์ริชสามารถให้บริการโซลูชันคลังสินค้าได้อย่างครบวงจรที่ทั้งสามารถออกแบบได้ตามความต้องการที่มีอย่างหลากหลายในปัจจุบัน และในฐานะที่ยุงค์ไฮน์ริชเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านโซลูชันอุปกรณ์จัดการวัสดุคลังสินค้า (Material Handling Equipment หรือ MHE) แน่นอนว่าเราสามารถให้คำปรึกษาได้ทุกรูปแบบการจัดเก็บและขนย้ายสินค้า เช่น การใช้ระบบอัตโนมัติปฏิบัติการ โซลูชันชั้นวางสินค้า รถโฟล์คลิฟท์ไฟฟ้าที่มีประสิทธิภาพและให้ความปลอดภัยสูง  ยุงค์ไฮน์ริชมุ่งมั่นในการสร้างคุณค่าด้านนวัตกรรมและความยั่งยืนมาอย่างต่อเนื่องด้วยการนำเทคโนโลยีลิเธียมไอออนมาใช้กับรถโฟล์คลิฟท์ไฟฟ้าที่เราจำหน่าย ซึ่งปัจจุบันรถโฟล์คลิฟท์ไฟฟ้าแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนได้ถูกจำหน่ายไปแล้วกว่า 1000000 คันทั่วโลก ซึ่งนั่นช่วยให้ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึง 20% สะท้อนแนวโน้มของตลาดในการปรับตัวและหันมาใช้รถโฟล์คลิฟท์ไฟฟ้ากันมากขึ้นในประเทศไทย เป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่าอุตสาหกรรมในไทยกำลังขับเคลื่อนไปสู่ความยั่งยืนโดยการนำเทคโนโลยีใหม่ๆเข้ามาใช้ในกระบวนการปฏิบัติงาน 

ในฐานะที่ยุงค์ไฮน์ริชเป็นองค์กรที่ตระหนักและให้ความสำคัญกับเรื่องของการสร้างคุณค่าด้านความยั่งยืนมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้เราได้รับรางวัล Platinum ระดับสูง ซึ่งถูกจัดอันดับอยู่ใน Top 1% จากบริษัทชั้นนำทั่วโลกที่สร้างความยั่งยืนมาต่อเนื่อง 3 ปีซ้อน จาก EcoVadis ผู้ประเมินด้านความยั่งยืนของธุรกิจที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล
นอกจากเทคโนโลยีใหม่ๆที่ยุงค์ไฮน์ริชคิดค้นมาเพื่อสร้างความยั่งยืนแล้ว เรายังให้ความสำคัญกับรถยกปรับสภาพที่สามารถนำกลับมาใช้ได้ใหม่ด้วยเช่นกัน โดยในประเทศไทย ยุงค์ไฮน์ริชมีศูนย์ปรับสภาพรถยกแห่งเอเชียแปซิฟิก ที่สามารถปรับสภาพรถยกที่ใช้งานแล้วให้กลับมาใช้งานได้ใหม่ การันตีด้วยจำนวนรถยกที่ถูกปรับสภาพแล้วทั่วทั้งเอเชียแปซิฟิกกว่า 1000 คัน นับตั้งแต่เปิดตัวศูนย์ฯ ซึ่งการใช้รถปรับสภาพทำให้สามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึง 80% เมื่อเทียบกับการซื้อรถใหม่มาใช้งาน  
 

โครงการริเริ่มเหล่านี้ไม่เพียงแต่แสดงถึงความเป็นผู้นำของยุงค์ไฮน์ริชในด้านความยั่งยืนเท่านั้น แต่ยังเน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นของยุงค์ไฮน์ริชในการลดปริมาณการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์พร้อมทั้งมอบโซลูชันอุปกรณ์จัดการวัสดุที่ยอดเยี่ยมอีกด้วย

 

ผู้บริหารระดับสูงจากยุงค์ไฮน์ริช  มร.สเตฟาน เบรม – รองประธานภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก กล่าว “ที่ยุงค์ไฮน์ริชเรามุ่งมั่นที่จะปฏิวัติอุตสาหกรรมการจัดการวัสดุด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัยและแนวทางปฏิบัติที่ยั่งยืน ’ศูนย์สร้างประสบการณ์ NXT Warehouse’ แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเราที่มีต่อภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและโดยเฉพาะประเทศไทย ในการพัฒนาโซลูชันอุปกรณ์จัดการวัสดุและคลังสินค้าที่มีประสิทธิภาพและสร้างสรรค์ที่สุดสำหรับคู่ค้าของเรา เรารู้สึกตื่นเต้นที่จะได้แบ่งปันวิสัยทัศน์และความก้าวหน้าของเรากับผู้นำในอุตสาหกรรมและพันธมิตร”