การเคหะแห่งชาติร่วมมือมูลนิธินายช่างไทยใจอาสา เร่งตรวจสอบอาคารที่ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหว เผยผลสำรวจ 926 อาคาร มั่นคง แข็งแรง ปลอดภัย

   เมื่อ : 19 ส.ค. 2568

เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2568 นายทวีพงษ์ วิชัยดิษฐ ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ เปิดเผยว่า จากสถานการณ์แผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมา การเคหะแห่งชาติเล็งเห็นความสำคัญสูงสุดของความปลอดภัยของผู้อยู่อาศัย โดยขับเคลื่อนการดำเนินงานตามแนวนโยบายของ นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) ภายใต้พันธกิจสำคัญ (Flagship Projects) 9 ด้าน โดยเฉพาะในด้าน "การพัฒนาที่อยู่อาศัยที่มีคุณภาพและปลอดภัย" พร้อมด้วยการกำกับดูแลของคณะกรรมการการเคหะแห่งชาติ เพื่อยกระดับความมั่นคงปลอดภัยของที่อยู่อาศัยจำนวน 660 โครงการทั่วประเทศ รวมถึงสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนในการอยู่อาศัยอย่างปลอดภัยและยั่งยืน”

 

ทั้งนี้ การเคหะแห่งชาติร่วมกับมูลนิธินายช่างไทยใจอาสาและสมาคมวิศวกรโครงสร้างแห่งประเทศไทยลงพื้นที่ตรวจสอบอาคารในโครงการของการเคหะแห่งชาติที่อาจได้รับผลกระทบจากเหตุแผ่นดินไหวครอบคลุมพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ได้แก่ นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร นครปฐม และภูมิภาค รวมจำนวน 660 โครงการทั่วประเทศ โดยมีโครงการที่ไม่ได้รับความเสียหายใด ๆ จำนวน 573 โครงการ และได้รับความเสียหายเล็กน้อยถึงปานกลาง จำนวน 87 โครงการ ปัจจุบันตรวจสอบแล้ว จำนวน 44 โครงการ รวม 926 อาคาร สำหรับอาคารที่เสียหายเล็กน้อยถึงปานกลางโดยส่วนใหญ่พบเป็นรอยแตกร้าวของอาคารตามบันไดหรือผนังชำรุดเล็กน้อย สีหลุดล่อน ซึ่งไม่กระทบกับโครงสร้างอาคาร ในส่วนของการซ่อมแซมถ้าโครงการจดเป็นนิติบุคคลอาคารชุดแล้วจะส่งต่อให้นิติบุคคลฯ เป็นผู้ดำเนินการซ่อมแซม และถ้าเป็นอาคารเช่าเหมาจะประสานให้ผู้เช่าเหมาเป็นผู้ซ่อมแซม ปัจจุบันยังไม่ได้รับแจ้งปัญหาเพิ่มเติม และอยู่ระหว่างการตรวจสอบอาคารเพิ่มเติมเนื่องจากยังตรวจสอบไม่ครบทุกโครงการ

นอกจากนี้ มีอาคารที่ได้รับป้ายรับรองความมั่นคงแข็งแรงไปแล้วบางส่วน เพื่อสร้างความมั่นใจให้ผู้พักอาศัยว่าอาคารมีความมั่นคง ปลอดภัยใช้งานได้ จำนวน 103 อาคาร โดยจะทยอยรับป้ายรับรองความมั่นคงแข็งแรงสามารถใช้งานได้จนครบจำนวน 926 อาคารในรอบนี้

 

นายทวีพงษ์ กล่าวว่า ภารกิจของการเคหะแห่งชาติไม่เพียงแค่ก่อสร้างและออกแบบที่พักอาศัย เพื่อให้ชาวชุมชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีเท่านั้นแต่ยังให้ความสำคัญกับการดูแลความปลอดภัย ของผู้พักอาศัยด้วย โดยเฉพาะในช่วงที่เกิดภัยพิบัติ ภัยธรรมชาติ โดยการตรวจสอบโครงสร้างอาคารครั้งนี้ ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญ จึงมอบหมายให้มูลนิธินายช่างไทยใจอาสาที่มีวิศวกรอาสาที่มีความเชี่ยวชาญเป็นผู้ตรวจสอบอาคาร ซึ่งทีมวิศวกรจะตรวจสอบอาคารตามหลักวิชาการอย่างละเอียดทั้งในส่วนของโครงสร้าง ผนัง พื้น เสา คาน รวมถึงอุปกรณ์ภายในอาคาร เพื่อให้มั่นใจว่าอาคารยังคงมีความแข็งแรงและปลอดภัยต่อการพักอาศัย

ข่าวอื่นๆ ที่น่าสนใจ