DP Survey จับมือ Deco ผู้นำตลาดมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าในเครือ MTW ร่วมขับเคลื่อนตลาดยานยนต์พลังงานสะอาด สร้างสังคมยั่งยืน
บริษัท ดี พี เซอร์เวย์ แอนด์ลอว์ จำกัด (DP Survey) บริษัทในเครือ ทิพย กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) ได้ลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU) กับ บริษัท เมคทูวิน โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ MTW เพื่อผลักดันการตลาดและการจัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าแบรนด์ Deco ภายใต้การดำเนินงานของ บริษัท เดโก้ กรีน เอนเนอร์จี จำกัด โดยความร่วมมือครั้งนี้มุ่งเน้นส่งเสริมสวัสดิการพนักงานในเครือและขยายตลาดสู่หน่วยงานต่าง ๆ เพื่อช่วยกันขับเคลื่อนพลังงานสะอาด สร้างสรรค์สิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืนไปด้วยกัน
โดยมีนายกลพัฒน์ รัตนาภรณ์ กรรมการผู้จัดการ และนายก่องรัฐ พงษ์ยุพินพานิช รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ดี พี เซอร์เวย์ แอนด์ลอว์ จำกัด ร่วมกับ นายกฤตเมธ ตั้งพิชญโพธิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมคทูวิน โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ MTW และ บริษัท เดโก้ กรีน เอนเนอร์จี จำกัด พร้อมด้วย นางสาวฐิดาภรณ์ ตั้งพิชญโพธิวัฒน์ ผู้อำนวยการฝ่ายขายและการตลาด บริษัท เดโก้ กรีน เอนเนอร์จี จำกัด ร่วมพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงในครั้งนี้
นายกลพัฒน์ รัตนาภรณ์ กล่าวว่า “DP Survey เป็นบริษัทสำรวจภัยที่อยู่ในเครือบริษัท ทิพย กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) มีภารกิจหลักในการ บริหารจัดการสินไหมการประกันภัยทุกประเภท แบบครบวงจร ตั้งแต่การสำรวจภัยและประเมินความเสียหายการตรวจสภาพทรัพย์สินก่อนเอาประกันภัย การเรียกร้องคู่กรณีและการดำเนินการทางกฎหมายให้กับบริษัทประกันวินาศภัยโดยใช้เทคโนโลยีที่มีความทันสมัยและทีมงานที่มีความเชี่ยวชาญ โดยการลงนามความร่วมมือครั้งนี้เป็นการยืนยันถึงความมุ่งมั่นของเราที่จะร่วมสนับสนุนการใช้พลังงานสะอาดและเป็นส่วนหนึ่งการขยายตลาดยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย โดยเราเชื่อว่าความร่วมมือครั้งนี้จะนำมาซึ่งความสำเร็จและเป็นประโยชน์ต่อทุกฝ่าย”
นายกฤตเมธ ตั้งพิชญโพธิวัฒน์ กล่าวว่า “จากภาวะโลกร้อนและปัญหาสิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้น ทาง MTW จึงได้ผลักดัน Deco บริษัทในกลุ่มที่ดำเนินธุรกิจประกอบ ผลิต และจำหน่ายจักรยานยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่ของประเทศ เดินหน้าขยายตลาดตอบโจทย์ลูกค้า ด้วยเครือข่ายศูนย์บริการที่มีครอบคลุมทั่วประเทศกว่า 100 แห่ง ตอบรับแนวโน้มการใช้จักรยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยมีทิศทางเพิ่มสูงขึ้น และด้วยการสนับสนุนจากนโยบายภาครัฐ ซึ่งในปัจจุบัน Deco เป็นผู้นำตลาดรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าที่มีมาร์เก็ตแชร์เป็นอันดับหนึ่งของประเทศ และมีโรงงานที่ทันสมัย เป็นฐานการผลิตรายใหญ่ที่สุดมีกำลังการผลิตสูงถึง 2 ล้านคัน/ปี ร่วมขับเคลื่อนประเทศไทยเปลี่ยนผ่านสู่สังคมยานยนต์ไฟฟ้าในอนาคต”
การเปลี่ยนมาใช้พลังงานสะอาดและการส่งเสริมยานยนต์ไฟฟ้าไม่เพียงช่วยลดการปล่อยมลภาวะทางอากาศ แต่ยังตอบสนองความต้องการของสังคมในการพัฒนาอย่างยั่งยืน ซึ่งความร่วมมือของทั้งสองบริษัทนี้ ได้นำแนวคิด ESG (Environmental Social and Governance) มาร่วมกันสร้างประโยชน์ทั้งต่อสิ่งแวดล้อม สังคม และการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน