เปิดกลยุทธ์ความสำเร็จ “แฮปปี้เชฟ” “เน้นความต่าง-เพิ่มความสะดวก-พัฒนาต่อเนื่อง” หัวใจสำคัญดันธุรกิจสู่ 1 ในผู้นำ ผู้ผลิตอาหารพร้อมทานร้านเซเว่น อีเลฟเว่น
หากถามเหล่าแฟนพันธุ์แท้ร้านเซเว่น อีเลฟเว่น ถึงแบรนด์สินค้าในดวงใจ เชื่อว่าต้องมี "แฮปปี้เชฟ" แบรนด์อาหารสำเร็จรูปพร้อมทานเลื่องชื่อหลายรายการ อาทิ ลูกชิ้นปิ้งเสียบไม้ หมูคลุกฝุ่น ไส้กรอกต๊อกบกกีชีส รามยอน จาจังมยอน ปรากฏขึ้นในหัวอย่างแน่นอน เพราะนอกจากรสชาติที่ถูกปากแล้ว แพ็กเก็จจิ้ง ยังแปลกตาดูทันสมัยอีกด้วย โดย “แฮปปี้เชฟ” ถือเป็นหนึ่งในแบรนด์ที่อยู่คู่ร้านเซเว่น อีเลฟเว่น มาอย่างยาวนาน นับรวมเวลากว่า 12 ปี จากพันธมิตรคู่ค้าตัวเล็กๆ ในวันนั้น มาในวันนี้ “แฮปปี้เชฟ” ได้ก้าวสู่หนึ่งในผู้นำผู้ผลิตอาหารพร้อมทานในร้านเซเว่น อีเลฟเว่น เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และมียอดขายกว่า 735 ล้านบาท ในปีนี้
อะไรที่ทำให้ แฮปปี้เชฟ ประสบความสำเร็จสามารถเติบโตและยืนหยัดได้อย่างแข็งแกร่ง ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นตลอดเวลา งานนี้ หนึ่ง-ธีระวัฒน์ เลาหพันธุ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แฮปปี้เชฟ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตอาหารสำเร็จรูปพร้อมทาน ภายใต้แบรนด์ "แฮปปี้เชฟ"และ "อีซี่เทส บาย แฮปปี้เชฟ" ได้ออกมาเปิดเผยถึง 3 กลยุทธ์หลักที่เป็นหัวใจนำพาธุรกิจให้ประสบความสำเร็จในงาน “SME x Influencer” ออนทัวร์ครั้งที่ 3 ที่ จ.ภูเก็ต
มุ่งสร้างความต่าง: ความสำเร็จที่เริ่มจากเอกลักษณ์
ธีระวัฒน์ เล่าว่า นับตั้งแต่เริ่มต้นทำธุรกิจ บริษัทมีวิสัยทัศน์ในการดำเนินธุรกิจแบบมุ่งสร้างความแตกต่างในทุกมิติ โดยหากย้อนกลับไปเมื่อช่วง 10 กว่าปีที่ผ่านมา ตลาดสินค้าอาหารพร้อมทานประเภทแช่เย็นยังไม่เป็นที่นิยม ทางบริษัทมองเห็นโอกาสในการเติบโตดังกล่าว ประกอบกับในช่วงเวลานั้นทางเซเว่น อีเลฟเว่น มีนโยบายเพิ่มสัดส่วนสินค้าพร้อมทานให้มากขึ้น
สินค้าประเภทพร้อมทานที่มีวางจำหน่ายในร้านเซเว่น อีเลฟเว่น ส่วนใหญ่เป็น ไส้กรอก ซึ่งได้รับความนิยมอย่างมาก บริษัทจึงกลับมาคิดว่าหากจะผลิตสินค้าภายใต้แบรนด์ของตัวเองวางจำหน่ายในเซเว่น อีเลฟเว่น ควรเป็นสินค้าอะไรดีที่คนนิยมบริโภค แต่มีจำหน่ายเฉพาะบางช่วงเวลา และลูกชิ้นปิ้งเสียบไม้ ก็คือคำตอบ แม้จะเป็นสินค้าที่หาทานได้ง่าย แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะหาทานได้ตลอดเวลา
“จุดเด่นที่ทำให้สินค้าได้รับการยอมรับคือ การมองหาความแตกต่างหรือจุดต่างจากตลาด ดูว่าเราจะแตกต่างได้อย่างไร ในช่วงเวลานั้นการนำอาหารบ้านๆ อย่าง ลูกชิ้นปิ้งเสียบไม้มาบรรจุในแพ็กเก็จจิ้งแบบเดียวกับไส้กรอก และนำมาขายในร้านโมเดิร์นเทรด ถือเป็นเรื่องแปลกใหม่ ที่ยังไม่มีใครทำมาก่อนในตลาด เรียกว่าเป็นการสร้างเอกลักษณ์เฉพาะตัวให้กับแบรนด์ในฐานะผู้ผลิตสินค้าพร้อมทานรายแรกๆ ในเซเว่น อีเลฟเว่น”
เพิ่มความสะดวก: ครอบคลุมทุกกลุ่มที่เกี่ยวข้อง
ด้วยกลุ่มลูกค้าหลักของร้านเซเว่น อีเลฟเว่น เป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตที่มุ่งเน้นความสะดวกสบาย แปลว่าแพ็กเก็จจิ้งต้องสะดวกต่อการทาน อย่างเช่น ช้อนที่ใช้ตักอาหารก็ต้องคิดว่าช้อนแบบไหนที่จะสะดวกกับผู้บริโภค ขนาดของช้อนเวลาตักอาหารขึ้นมาจะต้องเหมาะสำหรับหนึ่งคำไม่มากหรือน้อยจนเกินไป แต่การสร้างความสะดวกให้กับผู้บริโภคเพียงอย่างเดียวคงไม่เพียงพอ แต่ต้องคำนึงถึงความสะดวกของผู้ผลิตและผู้ให้บริการด้วยเช่นกัน
ยกตัวอย่างการสร้างความสะดวกให้กับผู้ผลิต เช่น ในขั้นตอนการนำสินค้าบรรจุลงตะกร้า เพื่อส่งต่อไปจัดจำหน่ายในร้านเซเว่น อีเลฟเว่น ต่อหนึ่งตะกร้าสามารถบรรจุได้กี่แพ็คหรือกี่ถาด เพื่อความสะดวกและรวดเร็วในการคำนวณจำนวนสินค้า หรือกระทั่งการส่งต่อไปยังพนักร้านเซเว่น อีเลฟเว่น ต้องคำนึงถึงว่าเวลาที่พนักงานให้บริการอุ่นสินค้าให้กับลูกค้าจะมีความยุ่งยากหรือไม่ ต้องเปิดปากถุงแพ็กเก็จจิ้งทั้งหมดหรือเปิดเพียงแค่นิดหน่อยก็ได้ เพื่อให้อาหารอุ่นร้อนในระดับที่ยังคงรสชาติความอร่อยได้มากที่สุด ระยะเวลาการอุ่นควรจะเป็นเท่าไหร่ถึงจะดี บริษัทก็จะมีบอกบนแพ็กเก็จจิ้ง ดังนั้นจึงต้องคิดในทุกกระบวนการและทุกขั้นตอนต่างๆ อย่างถี่ถ้วน เรียกว่าต้องสร้างความสะดวกในทุกกลุ่มที่เกี่ยวข้อง
พัฒนาต่อเนื่อง: แรงขับเคลื่อนสำคัญ ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลง
หนึ่งในปัจจัยที่ทำให้ “แฮปปี้เชฟ” ยืนหยัดได้ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงของตลาดคือ ความไม่หยุดที่จะพัฒนาสินค้า ไม่ว่าจะเป็นการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาปรับใช้ในกระบวนการผลิต หรือการสำรวจและตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง เช่น การเพิ่มเมนูใหม่ๆ ตามกระแสนิยม
“แม้ลูกชิ้นเสียบไม้จะได้รับความนิยมอย่างมาก แต่บริษัทก็ไม่หยุดที่จะมองหาสินค้าตัวต่อไป ซึ่งสินค้าทุกชิ้นจะต้องมีการสำรวจจากฝ่ายวิจัยด้านการตลาดของบริษัท ควบคู่กับการได้รับคำแนะนำจากทีมเซเว่น อีเลฟเว่น หลังจากนั้นก็จะเริ่มพัฒนาสูตรและรสชาติให้เหมาะกับความต้องการของผู้บริโภค โดยสินค้าที่พัฒนาและได้รับความนิยมอย่างมากในตลาดก็คือ สินค้าอาหารเกาหลี ที่แม้จะดูว่าสามารถหาทานได้ทั่วไป แต่บริษัทก็จะหาความต่างและพัฒนาให้ไม่เหมือนกับที่จำหน่ายในร้านอาหารเกาหลีทั่วไป เช่น ไส้กรอกต๊อกบกกีชีส ไส้กรอกต๊อกบกกีลาวาชีส รามยอนสไปซี่โซซิจิชิคเก้น จาจังมยอน ถือเป็นสูตรเฉพาะที่หาซื้อได้ในร้านเซเว่น อีเลฟเว่นเท่านั้น”
พัฒนาต่อเนื่อง: แรงขับเคลื่อนสำคัญ ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลง
หนึ่งในปัจจัยที่ทำให้ “แฮปปี้เชฟ” ยืนหยัดได้ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงของตลาดคือ ความไม่หยุดที่จะพัฒนาสินค้า ไม่ว่าจะเป็นการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาปรับใช้ในกระบวนการผลิต หรือการสำรวจและตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง เช่น การเพิ่มเมนูใหม่ๆ ตามกระแสนิยม
“แม้ลูกชิ้นเสียบไม้จะได้รับความนิยมอย่างมาก แต่บริษัทก็ไม่หยุดที่จะมองหาสินค้าตัวต่อไป ซึ่งสินค้าทุกชิ้นจะต้องมีการสำรวจจากฝ่ายวิจัยด้านการตลาดของบริษัท ควบคู่กับการได้รับคำแนะนำจากทีมเซเว่น อีเลฟเว่น หลังจากนั้นก็จะเริ่มพัฒนาสูตรและรสชาติให้เหมาะกับความต้องการของผู้บริโภค โดยสินค้าที่พัฒนาและได้รับความนิยมอย่างมากในตลาดก็คือ สินค้าอาหารเกาหลี ที่แม้จะดูว่าสามารถหาทานได้ทั่วไป แต่บริษัทก็จะหาความต่างและพัฒนาให้ไม่เหมือนกับที่จำหน่ายในร้านอาหารเกาหลีทั่วไป เช่น ไส้กรอกต๊อกบกกีชีส ไส้กรอกต๊อกบกกีลาวาชีส รามยอนสไปซี่โซซิจิชิคเก้น จาจังมยอน ถือเป็นสูตรเฉพาะที่หาซื้อได้ในร้านเซเว่น อีเลฟเว่นเท่านั้น”
แม้ทั้ง 3 กลยุทธ์จะเป็นหัวใจสำคัญในการสร้างความสำเร็จให้กับ “แฮปปี้เชฟ” แต่ยังมีสิ่งสำคัญอีกหนึ่งอย่างที่ คุณหนึ่ง อยากจะฝากถึงผู้ประกอบการนั่นก็คือ “จงมีความมุ่งมั่น และตั้งใจจริง เดินหน้าตามความฝันที่ตั้งไว้ อย่าท้อแม้เจออุปสรรค” แล้วความสำเร็จจะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน