ยูนิเซฟเปิดตัวแคมเปญ “Box of Life - กล่องช่วยชีวิต” ชวนคนไทยส่งความช่วยเหลือเร่งด่วนสู่เด็กในภาวะวิกฤต

   เมื่อ : 17 พ.ย. 2567

กรุงเทพฯ 15 พฤศจิกายน 2567 - องค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย เปิดตัวแคมเปญ “Box of Life” ปลุกพลังทุกคนมาร่วมลงมือทำและบริจาคเพื่อมอบความช่วยเหลือแก่เด็กที่กำลังเผชิญวิกฤตในด้านต่างๆ ภายใต้แคมเปญ “A Better Tomorrow Today” โดยมุ่งเน้นให้ทุกคนร่วมสร้างอนาคตที่ดีกว่าแก่เด็กๆ ทั้งในประเทศไทยและทั่วโลกที่ขาดแคลนสิ่งจำเป็นพื้นฐาน โดยเฉพาะในพื้นที่ที่เด็กเผชิญกับวิกฤตการณ์ด้านสุขภาพ ภาวะขาดแคลนอาหาร ภัยพิบัติ และความไม่เท่าเทียมทางสังคม    

 

“Box of Life” หรือ "กล่องช่วยชีวิต" ของยูนิเซฟ เป็นชุดสิ่งของจำเป็นขั้นพื้นฐาน ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยเหลือเด็ก ๆ ที่อยู่ในสถานการณ์ฉุกเฉิน ประกอบด้วย เช่น วัคซีนป้องกันโรค อาหารบำบัดฉุกเฉิน เม็ดทำน้ำดื่มสะอาด ชุดสุขอนามัย และอุปกรณ์การศึกษา ซึ่งไม่เพียงช่วยให้เด็ก ๆ ปลอดภัย แต่ยังสร้างพื้นฐานที่ดีแก่การเติบโตและพัฒนาได้อย่างเต็มศักยภาพ แม้ในยามที่ต้องเผชิญความยากลำบาก การสนับสนุน Box of Life จึงเป็นเหมือนการวางรากฐานอนาคตที่มั่นคงให้แก่เด็กทุกคน เพื่อให้พวกเขามีโอกาสเติบโตอย่างปลอดภัย แข็งแรง และเปี่ยมด้วยความหวัง

โดยแคมเปญนี้ได้รับการสนับสนุนจากบุคคลที่มีชื่อเสียง นำโดย มาดามแป้ง-นวลพรรณ ล่ำซำ ทูตองค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย นักแสดงชื่อดัง เจมส์-จิรายุ ตั้งศรีสุข และ ชาคริต แย้มนาม รวมถึงนักกีฬาแบดมินตัน ปอป้อ-ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย ซึ่งทั้ง 4 ท่านได้ร่วมเป็นกระบอกเสียงสำคัญ ในการส่งต่อข้อความว่าเด็กทุกคนควรได้รับการสนับสนุน เพื่อสร้างอนาคตที่สดใส

 

นางคยองซอน คิม ผู้อำนวยการองค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย กล่าวว่า “เด็กๆ ทั่วโลกกำลังเผชิญกับวิกฤตที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นภัยต่อสุขภาพ ความปลอดภัย และอนาคตของพวกเขา วันนี้คือเวลาที่เราต้องผนึกกำลังกัน ไม่เพียงเพื่อรับมือกับวิกฤต แต่ต้องมั่นใจว่าจะไม่มีเด็กคนใดต้องต่อสู้เพียงลำพัง  ‘Box of Life’  จึงเป็นมากกว่ากล่องบรรจุสิ่งของจำเป็น แต่เป็นดั่งสะพานสู่อนาคตที่สดใส และสัญลักษณ์แห่งความหวังและโอกาส ดังนั้นทุกการสนับสนุน คือการร่วมกันเส้นทางชีวิตที่จะนำพาเด็ก ๆ เติบโตอย่างแข็งแกร่งในวันข้างหน้า”

ยูนิเซฟยังได้นำเสนอวิดีโอ “Box of Life” ผ่านเครือข่ายรถไฟฟ้าบีทีเอสทั่วกรุงเทพมหานคร ทั้งยังมีกิจกรรมพิเศษ “Train to the Future”  ที่แปลงโฉมขบวนรถไฟฟ้าให้กลายเป็นแกลเลอรีเคลื่อนที่แสดงผลงานศิลปะอันทรงพลังของเด็กๆ ที่ได้ถ่ายทอดความฝันและแรงบันดาลใจผ่านลวดลายอันสดใส สร้างสรรค์ขบวนรถไฟให้เป็นสัญลักษณ์แห่งการเดินทางสู่โลกที่ปลอดภัย สมบูรณ์ และเปี่ยมด้วยความหวัง เป็นการส่งเสียงแทนเด็กๆ ทั่วโลกที่กำลังเผชิญความยากลำบาก และเรียกร้องโอกาสที่เท่าเทียมเพื่อก้าวสู่อนาคตที่ดีกว่า

 

ปัจจุบัน เด็กนับล้านทั่วโลกกำลังตกอยู่ในสถานการณ์ยากลำบากและวิกฤตที่สามารถป้องกันได้ ทุก ๆ วัน มีเด็ก 13400 ชีวิตต้องเสียชีวิตเพียงเพราะขาดสิ่งพื้นฐานอย่างวัคซีน น้ำสะอาด และสุขอนามัยที่ดี ขณะที่เด็กอีกกว่า 45 ล้านคนกำลังประสบภาวะขาดสารอาหารขั้นวิกฤต ส่งผลให้เด็กเสียชีวิตถึงหนึ่งล้านคนต่อปี ไม่เพียงเท่านั้น โรคมาลาเรียเพียงโรคเดียวก็คร่าชีวิตเด็ก ๆ ปีละ 400000 คน ทั้งยังมีเด็กอีก 250 ล้านคนที่ขาดโอกาสในการศึกษา โดยเฉพาะในเขตพื้นที่ความขัดแย้ง ทั้งที่การศึกษาคือความหวังเดียวที่จะพาพวกเขาหลุดพ้นจากความยากลำบาก และที่น่าวิตกยิ่งขึ้นคือ เด็กในภูมิภาคเอเชียตะวันออกและแปซิฟิกถึงร้อยละ 65 กำลังเผชิญภัยคุกคามจากวิกฤตสภาพอากาศ ไม่ว่าจะเป็นน้ำท่วมหรือมลพิษ ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยของโลกถึงเกือบสองเท่า

 

มาดามแป้ง-นวลพรรณ ล่ำซำ กล่าวเสริมว่า “ตัวเลขทางสถิติเหล่านี้เป็นเพียงภาพสะท้อนส่วนหนึ่งของความจริง เพราะเบื้องหลังตัวเลขแต่ละตัวคือชีวิตของเด็ก ๆ ที่เต็มไปด้วยศักยภาพ ความฝัน และสิทธิอันชอบธรรมที่จะได้ก้าวเดินสู่อนาคตอันสดใส ปัญหาและวิกฤตต่าง ๆ นี้สามารถยุติลงได้ หากเราร่วมแรงร่วมใจกัน และต้องเริ่มลงมือในวันนี้ ทุกการสนับสนุนในแคมเปญ ’Box of Life’ คือก้าวสำคัญในการช่วยชีวิตและปกป้องอนาคตของพวกเขา เราไม่ได้เพียงส่งมอบความช่วยเหลือเท่านั้น แต่ยังส่งต่อความหวัง พลังใจ และโอกาสให้เด็กทุกคนได้เติบโตอย่างปลอดภัยและแข็งแกร่ง”

 

ด้าน ปอป้อ-ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย กล่าวว่า “อนาคตของเด็กจะเป็นอย่างไร สิ่งสำคัญคือการ
ได้รับโอกาส ซึ่งรวมถึงการสร้างแรงบันดาลใจและการมอบความหวังให้พวกเขา การได้เห็นเด็ก ๆ มีโอกาสพัฒนาตนเองและเติบโตได้อย่างเต็มศักยภาพเป็นสิ่งที่มีคุณค่าที่สุดสำหรับสังคม”

ส่วน ชาคริต แย้มนาม เผยว่า “ผมเชื่อว่าเด็กทุกคนควรได้รับการสนับสนุนทั้งด้านการศึกษาและพัฒนาทักษะชีวิตในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม ทุกการสนับสนุนที่เรามอบให้เด็ก ๆ คือการมอบโอกาสและความหวังในชีวิตที่ดีขึ้น โดยเราทุกคนสามารถเป็นฮีโร่และสร้างการเปลี่ยนแปลงให้แก่เด็กเหล่านี้ได้”    

 

และเจมส์-จิรายุ ตั้งศรีสุข กล่าวเสริมว่า “การสนับสนุนเด็ก ๆ ไม่ว่าจะผ่านการบริจาค การร่วมกิจกรรม หรือการแบ่งปันข้อมูล ล้วนเป็นการสร้างโอกาสที่จะช่วยให้พวกเขาเติบโตขึ้นมาเป็นพลังสำคัญที่ดีให้กับสังคมในอนาคตได้ และผมอยากเป็นหนึ่งในกระบอกเสียงที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ และช่วยสร้างอนาคตที่สดใสให้กับเด็กทุกคน โดยเฉพาะเด็กที่อยู่ในภาวะยากลำบากที่สุด”

ในฐานะองค์กรหลักของโลกที่ทำงานด้านมนุษยธรรม ยูนิเซฟมุ่งมั่นที่จะเข้าถึงเด็กผู้เปราะบางที่สุด แม้ในพื้นที่ ๆ เข้าถึงยากที่สุด โดยตั้งเป้าส่งมอบสุขอนามัยที่ดีให้แก่ประชากรหนึ่งพันล้านคนทั่วโลกภายในปี 2573 โดย ’Box of Life’ จะเป็นหนึ่งในเครื่องมือสำคัญที่จะช่วยให้บรรลุเป้าหมายนี้ อีกทั้งยังเดินหน้าสร้างการเปลี่ยนแปลงในชีวิตเด็ก ๆ อย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2566 ยูนิเซฟได้จัดส่งวัคซีน 2.8 พันล้านโดสใน 105 ประเทศ ครอบคลุมเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี เกือบครึ่งหนึ่งของโลก ยูนิเซฟยังจัดหาอาหารบำบัดฉุกเฉินร้อยละ 80 ซึ่งได้ช่วยชีวิตเด็กหลายล้านคน พร้อมส่งมอบสื่อการเรียนรู้กว่า 42 ล้านชิ้นถึงเด็ก 28.3 ล้านคน รวมถึงเด็กในพื้นที่วิกฤต

 

โครงการ Box of Life จึงเป็นการเปิดโอกาสให้ทุกคนได้มีส่วนร่วมในการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ เพราะทุกการบริจาคไม่เพียงสร้างอนาคตที่ยั่งยืนและสังคมที่เข้มแข็ง แต่ยังจุดประกายอนาคตอันสดใสให้แก่เด็ก ๆ ที่จะเติบโตขึ้นเป็นผู้นำ นักคิด นักสร้างสรรค์ และผู้ที่พร้อมจะสร้างความเปลี่ยนแปลงในอนาคต มาร่วมสร้างการเปลี่ยนแปลงอนาคตของเด็กตั้งแต่วันนี้ ในแคมเปญ “A Better Tomorrow Today - วันนี้ เพื่อพรุ่งนี้ที่ดีกว่า” โดย ร่วมบริจาคเงินเพื่อช่วยเหลือเด็กกับยูนิเซฟ | UNICEF Thailand ผ่านการสนับสนุน Box of Life และทุกการบริจาค 1500 บาท จะได้รับพวงกุญแจยูนิเซฟที่เป็นสัญลักษณ์แห่งการสนับสนุนและส่งต่อความหวังให้กับเด็กและเยาวชน เข้าชมรายละเอียดได้ทาง www.unicef.org/thailand/th/better-tomorrow-today

 

สามารถบริจาคได้ที่ www.unicef.or.th/boxoflife
ชมวิดีโอ Box of Life ได้ที่ https://www.youtube.com/watch?v=k7SyzFC1vjA