ไทยพาณิชย์ปลื้มกระแสตอบรับบัญชีหุ้นกู้ EASY-D เกินคาด นำนักลงทุนลงทุนหุ้นกู้บนช่องทางดิจิทัล ยอดจองซื้อในตลาดแรกเติบโตกว่า 7 เท่า
ไทยพาณิชย์ โชว์ความสำเร็จนำบัญชีหุ้นกู้ EASY-D พลิกโฉมเทรนด์การลงทุนช่องทางดิจิทัลให้นักลงทุนรายย่อย ด้วยบริการการลงทุนหุ้นกู้ครบวงจรบนแอป SCB EASY ตั้งแต่บริการจองซื้อและฝากหุ้นกู้ตลาดแรก และบริการซื้อขายหุ้นกู้ผ่านตลาดรอง ตลอดจนรับฝากใบหุ้นกู้ รับโอนหุ้นกู้จากที่อื่นมาฝากรวมในบัญชีหุ้นกู้ EASY-D เพื่อสร้างประสบการณ์การลงทุนและรวมพอร์ตลงทุนในที่เดียวได้อย่างไร้รอยต่อ ส่งผลให้จำนวนบัญชีหุ้นกู้ที่เปิดบนช่องทางดิจิทัลนี้เติบโตมากกว่า 50% ต่อปีและมีแนวโน้มจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งนักลงทุนที่จองซื้อหุ้นกู้ตลาดแรกบนช่องทางดิจิทัลสามารถลดการถือใบหุ้นกู้โดยเปลี่ยนเป็นการฝากแบบไร้ใบในบัญชีหุ้นกู้ EASY-D เกินครึ่ง ด้วยบริการที่ตอบโจทย์ลูกค้านี้ผลักดันให้ยอดจองซื้อหุ้นกู้ตลาดแรกบนช่องทางดิจิทัลเติบโตถึง 7 เท่า โดยธนาคารคาดการณ์ว่าในปี 2024 ยอดจองซื้อหุ้นกู้ตลาดแรกบนช่องทางดิจิทัลจะยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง และได้ตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนการขายหุ้นกู้ผ่านแอป SCB EASY มากกว่า 50% พร้อมกับพัฒนาฟีเจอร์ใหม่ๆ เพื่อขับเคลื่อนการลงทุนดิจิทัลควบคู่การสร้างความมั่งคั่งที่ยั่งยืนให้นักลงทุนไทย
นายยศวีร์ สุทธิกุลพานิช Head of Primary Markets Distribution Division สายงาน Investment Banking and Capital Markets ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า หลังจากที่ปี 2023 ธนาคารได้เปิดตัว “บัญชีหุ้นกู้ EASY-D บริการรับฝากหุ้นกู้แบบไร้ใบ” ครั้งแรกบนแอป SCB EASY ให้ลูกค้าสามารถฝากหุ้นกู้บนช่องทางดิจิทัลแบบไร้ใบ (Scripless) ได้ โดยนำความต้องการของลูกค้าเป็นโจทย์หลักในการพัฒนาฟีเจอร์การลงทุนอย่างต่อเนื่องเรื่อยมา จนปัจจุบันสามารถให้บริการจองซื้อและรับฝากหุ้นกู้ตลาดแรกทั้งสำหรับหุ้นกู้ทั่วไปและหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุนฯ รวมถึงบริการซื้อขายหุ้นกู้ทั่วไปในตลาดรองบนบัญชีหุ้นกู้ EASY-D ผ่านแอป SCB EASY อีกทั้งธนาคารยังเป็นธนาคารแรกที่ให้บริการรับฝากใบหุ้นกู้ที่ลูกค้าถือครองอยู่ และรับโอนหุ้นกู้จากที่อื่นเพื่อฝากรวมในบัญชีหุ้นกู้ EASY-D ทำให้ลูกค้ามี Consolidated debenture portfolio รวมพอร์ตการลงทุนหุ้นกู้ในที่เดียว โดยได้รับการตอบรับจากนักลงทุนรายย่อยอย่างดีเกินกว่าที่คาดไว้ สะท้อนจากจำนวนลูกค้าที่ลงทะเบียนเปิดบัญชีหุ้นกู้ EASY-D เติบโตมากกว่า 50% ต่อปี และสัดส่วนลูกค้าจองซื้อหุ้นกู้ตลาดแรกผ่านแอป SCB EASY และถือหุ้นกู้ในรูปแบบใบหุ้นกู้ลดลงจาก 86% ในปี 2022 เหลืออยู่ประมาณ 40% ในปัจจุบัน ซึ่งเร็วกว่าเป้าหมายที่วางไว้ 2 ปี โดยลูกค้าดังกล่าวเปลี่ยนมาฝากหุ้นกู้แบบไร้ใบในบัญชีหุ้นกู้ EASY-D กว่า 50%
“บัญชีหุ้นกู้ EASY-D คือตัวอย่างที่ชัดเจนของการพัฒนาฟีเจอร์ที่เข้าถึงและเข้าใจลูกค้า และสามารถเปลี่ยนพฤติกรรมนักลงทุนรายย่อยจากเดิมที่ลูกค้าทำธุรกรรมจองซื้อหุ้นกู้ที่สาขาและถือหุ้นกู้ในรูปแบบกระดาษ ด้วยประสบการณ์การเปิดบัญชีหุ้นกู้ผ่านแอปที่สะดวกไม่ต้องใช้เอกสารและไม่ต้องเดินทางไปสาขาเพื่อเปิดบัญชี ไปจนถึงการมีบริการที่ครบถ้วนครอบคลุมตั้งแต่จองซื้อหุ้นกู้ตลาดแรก
ซื้อ/ขายหุ้นกู้ตลาดรอง และรวมพอร์ตการลงทุนหุ้นกู้ให้ลูกค้า ทำให้ยอดการจองซื้อหุ้นกู้ในตลาดแรกผ่านแอป SCB EASY เติบโตอย่างมีนัยสำคัญถึง 7 เท่า ในปี 2023 เมื่อเทียบกับก่อนมีบริการนี้ และอีกกว่าครึ่งของลูกค้าที่มีบัญชีหุ้นกู้ EASY-D เดิมยังไม่เคยมีการลงทุนในผลิตภัณฑ์การลงทุนกับธนาคาร แสดงให้เห็นว่าบัญชีหุ้นกู้ EASY-D ช่วยให้ธนาคารตอบโจทย์การลงทุนของลูกค้าในอีกมิติ และสอดคล้องกับเป้าหมายการเป็น Wealth Bank และยังสนับสนุนเป้าหมายการปฏิบัติงานของธนาคารเพื่อมุ่งสู่ Net Zero ภายในปี 2030 จากการสร้างเทรนด์ใหม่ในการลงทุนหุ้นกู้ผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น ซึ่งช่วยลดธุรกรรมที่ใช้กระดาษที่สาขา ทำให้ธนาคารลดการใช้กระดาษมากกว่า 1000000 แผ่น หรือเทียบเท่าต้นไม้กว่า 200 ต้น ตั้งแต่บัญชีหุ้นกู้ EASY-D เปิดใช้บริการ”
ธนาคารมีแผนพัฒนาฟีเจอร์ของบัญชีหุ้นกู้ EASY-D อย่างต่อเนื่องให้ครอบคลุมความต้องการของนักลงทุนรายย่อยเพื่อนำไปสู่การสร้างความมั่งคั่งให้แก่ลูกค้าด้วยเครื่องมือดิจิทัล โดยตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนการขายหุ้นกู้ในตลาดแรกผ่านแอป SCB EASY มากกว่า 50% เพื่อเป็นหนึ่งในธุรกิจที่ช่วยสนับสนุนรายได้ดิจิทัลของธนาคาร รวมทั้งเดินไปบนเส้นทาง Digital Bank with Human Touch และธนาคารดิจิทัลอันดับหนึ่งด้านการบริหารความมั่งคั่ง พร้อมมอบประสบการณ์การให้บริการที่เชื่อมถึงกันอย่างไร้รอยต่อในทุกช่องทางให้กับลูกค้า ทั้งนี้ ลูกค้าสามารถเปิดบัญชีหุ้นกู้ EASY-D เพื่อเตรียมพร้อมก่อนจองซื้อหุ้นกู้ในตลาดแรก ที่กำลังจะเปิดจองซื้อเร็วๆ นี้ บนแอป SCB EASY ได้แก่
หุ้นกู้ของบริษัทปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หุ้นกู้เพื่อความยั่งยืนของ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุนฯ ของบริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หุ้นกู้ของบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หุ้นกู้ของบริษัทเอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) รวมถึงหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุนฯ ของบริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) นักลงทุนที่สนใจสามารถติดตามรายละเอียดการจองซื้อได้จากสื่อต่างๆ ของธนาคารต่อไป