KBTG พัฒนา Face Liveness Detection เติมเต็มโซลูชัน AI เพื่อธุรกิจ การันตีด้วยรางวัลนวัตกรรม การเงินยอดเยี่ยม จาก Global Finance

   เมื่อ : 15 ต.ค. 2567

KBTG เผยผลงานด้าน AI อย่าง Face Liveness Detection ได้ผ่านการทดสอบ iBeta Level 2 ซึ่งเป็นมาตรฐานระดับสากลสูงสุดเป็นเจ้าแรกในเอเชียและเจ้าที่สามของโลกที่ผ่านการทดสอบทั้งโซลูชันแบบ Active และ Passive ​พร้อมให้บริการผ่าน AINU แบรนด์โซลูชันด้าน AI สำหรับภาคธุรกิจ ที่นำเสนอเทคโนโลยีเพื่อการยืนยันตัวตน (Identity Verification Technology) แบบครบวงจร การันตีด้วยการคว้ารางวัลนวัตกรรมการเงินยอดเยี่ยม The Innovators 2024 จาก Global Finance ในสาขา Compliance/Risk Innovation: Best eKYC Innovation to Minimize Facial Fraud นับเป็นโปรเจคต์เดียวจากไทยที่ได้รางวัลในปีนี้ สะท้อนความเชี่ยวชาญและความเป็นผู้นำด้าน AI ของ KBTG ผ่านผลงานที่ได้รับการยอมรับระดับสากล

 

ดร. มนต์ชัย เลิศสุทธิวงค์ Principal Research Engineer and Head of AI Research KBTG เปิดเผยว่า เทคโนโลยีสแกนใบหน้าได้ก้าวเข้ามามีบทบาทสำคัญอย่างมากในขั้นตอนการยืนยันตัวตนในการให้บริการลูกค้าหรือ e-KYC ทาง KBTG Labs ได้มีการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยี AI สแกนใบหน้าเป็นของตัวเอง ซึ่งนอกจากระบบ Face Recognition จดจำและเปรียบเทียบใบหน้าแล้ว KBTG ยังให้ความสำคัญกับระบบ Face Liveness Detection ที่ตรวจจับและพิสูจน์ว่าใบหน้าที่สแกนนั้นมาจากตัวบุคคลจริง ๆ ไม่ได้ผ่านการตบแต่งหรือสวมรอยใด ๆ โดยในปี 2567 เทคโนโลยี KBTG Face Liveness Detection ได้ผ่านการทดสอบ iBeta Level 2 ซึ่งเป็นมาตรฐานการทดสอบระดับสากลสูงสุด ทั้งโซลูชันแบบ Active ที่ผู้ทดสอบจะต้องขยับหน้าตามคำสั่ง และ Passive ที่ตรวจจับจากแค่ใบหน้านิ่ง ๆ เป็นเจ้าแรกในเอเชียและเจ้าที่สามของโลกที่ผ่านการทดสอบทั้งสองโซลูชัน  ​

ล่าสุด เทคโนโลยี KBTG Face Liveness Detection สามารถคว้ารางวัล นวัตกรรมการเงินยอดเยี่ยม The Innovators 2024 ในสาขา Compliance/Risk Innovation: Best eKYC Innovation to Minimize Facial Fraud จากนิตยสาร Global Finance สื่อการเงินระดับโลก นับเป็นองค์กรไทยแห่งเดียวที่ได้รับรางวัลดังกล่าว ตอกย้ำผลงานนวัตกรรมของ KBTG  ที่พัฒนาด้วยความทุ่มเทใส่ใจในการปกป้องข้อมูลและสินทรัพย์เพื่อเพิ่มความไว้วางใจให้แก่ลูกค้า และได้รับการยอมรับในระดับสากล ทั้งนี้ KBTG Face Liveness Detection ได้ถูกนำไปใช้งานในแอปพลิเคชันต่าง ๆ ของธนาคารกสิกรไทยและบริษัทในกลุ่มธุรกิจธนาคารกสิกรไทย รวมทั้ง KBTG ไม่ว่าจะเป็น K PLUS ทั้งไทยและเวียดนาม แอป MAKE by KBank  แอป Kubix และอื่น ๆ รองรับลูกค้ารวมกว่า 20 ล้านรายทั่วภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้  รวมทั้งการพัฒนาเป็นโซลูชัน AI สำหรับภาคธุรกิจที่ต้องการเพิ่มสะดวกและความปลอดภัยในระบบบริการ

 

ดร. เจริญชัย บวรธรรมรัตน์ Senior Venture Director KX เปิดเผยว่า ปัจจุบัน KBTG เปิดให้บริการสำหรับธุรกิจที่ต้องการเข้าถึงเทคโนโลยี Face Liveness Detection ซึ่งได้รับการรองรับระดับสากล และเป็นส่วนประกอบในแอปพลิเคชันชั้นนำต่าง ๆ โดยให้บริการผ่านบริษัท กสิกร เอกซ์ จำกัด (KX) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ KBTG ภายใต้แบรนด์ AINU ซึ่งเป็นโซลูชันด้าน AI สำหรับภาคธุรกิจ ที่นำเสนอเทคโนโลยีเพื่อการยืนยันตัวตน (Identity Verification Technology) แบบครบวงจร

AINU ถูกพัฒนาขึ้นตามมาตรฐานสากลและตรงตามแนวทางการปฏิบัติของธนาคารแห่งประเทศไทยและตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ดังนั้นสามารถนำไปใช้ในการยืนยันตัวตนได้กับหลากหลายธุรกิจ เช่น ธุรกิจการเงิน สินทรัพย์ดิจิทัล สินเชื่อ ประกันภัย ประกันชีวิต อีคอมเมิร์ซ รวมไปถึงสถาบันการศึกษา หน่วยงานภาครัฐ และอื่น ๆ โซลูชันของเรามีความยืดหยุ่นสูง สามารถปรับแต่งให้ตรงกับความต้องการของธุรกิจต่าง ๆ ได้อย่างลงตัว นอกจากนี้ AINU ยังมีทีมพัฒนาในประเทศที่พร้อมตอบสนองทุกความต้องการของลูกค้า ให้การทำงานของลูกค้าราบรื่นและมีประสิทธิภาพสูงสุด พร้อมทั้งเพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้ใช้งานแพลตฟอร์มทุกคน

AINU ประกอบไปด้วย 3 ฟีเจอร์หลัก คือ 1. Thai ID OCR (Optical Character Recognition) ระบบแปลงข้อมูลจากภาพ โดยดึงข้อมูลบัตรประชาชนจากภาพถ่ายเพื่อใช้ในการยืนยันตัวตน และสามารถตรวจเพิ่มเติมได้ว่าบัตรประชาชนดังกล่าวเป็นบัตรจริงหรือปลอม 2. Face Recognition ระบบเปรียบเทียบใบหน้า สามารถเทียบหน้าจากการสแกนเพื่อตรวจสอบว่าตรงกับรูปในบัตรประชาชนหรือฐานข้อมูล และ 3. Face Liveness Detection ระบบตรวจสอบว่าบุคคลด้านหลังกล้องเป็นคนที่มีชีวิตจริงหรือไม่ เพื่อป้องกันการสวมรอยจากรูปถ่ายหรือวิดีโอ ซึ่งเป็นตัวเดียวกันกับ KBTG Face Liveness Detection ที่ได้รับรางวัล

 

สำหรับธุรกิจที่สนใจเทคโนโลยียืนยันตัวตนที่การันตีด้วยมาตรฐานและรางวัลระดับสากล รวมไปถึงบริการอื่น ๆ อย่าง Face Recognition และ OCR ผ่าน AINU สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ https://ainu.tech